post

จุดกำเนิดของการวิ่งมาราธอน

กิจกรรมการออกกำลังกายในที่แจ้ง แบบไร้อุปกรณ์ตัวช่วยใด ๆ แต่มีความชิวสบาย นั่นคือการวิ่งนั่นเอง ไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก แค่เตรียมกำลังใจและความพร้อมของร่างกายเท่านั้นเอง แต่สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงการวิ่งมาราธอน ซึ่งเป็นการวิ่งที่ไม่ได้เน้นความเร็ว แต่โฟกัสที่ระยะทาง และความอึดของร่างกายเท่านั้น เอาละถ้าพร้อมแล้วเรามาดูประวัติของกีฬาวิ่งมาราธอน กับการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการวิ่งระยะไกลกันเลย

จุดกำเนิดของกีฬาวิ่งมาราธอน

ที่มาของการวิ่งมาราธอนนี้ก็คือ การยกย่องชาวเอเธนส์เมื่อครั้งสู้รบกับชาวเปอร์เซีย ที่ต้องการจะยึดครองยุโรป และจัดกำลังทหารกองพลที่เมืองมาราธอน แต่ด้วยชาวกรีกมีความชำนาญในพื้นที่มากกว่า จึงได้เปรียบและต่อสู้รบชนะชาวเปอร์เซียได้ Pheidippides (ฟีดิปปิเดซ) ทหารชาวกรีก ได้รับมอบหมายให้ส่งข่าวการรบชนะไปยังเอเดนส์ เขาวิ่งตลอดทาง และด้วยความเหนื่อยล้าจากการรบ กับระยะทางที่ไกลตลอด 40 กิโลเมตร ร่างกายจึงช็อคและก่อนที่จะเสียชีวิต เขาก็ได้ตะโกนออกมาว่า “ชัยชนะ” เมื่อถึงหน้าเมืองเอเธนส์พอดี

จากนั้นต่อมา ก็ได้มีการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งแรกของโลกในกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1896 ที่เมืองเอเธนส์ โดยใช้ระยะทางเดิมจากเมืองมาราธอนมายังเมืองเอเธนส์ ที่ฟิดิปปิเดซส่งสารในครั้งนั้น เพื่อเป็นระลึกถึงชัยชนะและคุณงามความดีของผู้ส่งสาร

เตรียมความพร้อมก่อนวิ่งมาราธอน

1. เตรียมร่างกายให้คุ้นชินก่อน เพราะการวิ่งมาราธอนเป็นการวิ่งในระยะไกล สำหรับมือใหม่นักวิ่ง จะต้องมีการซ้อมเพิ่มระยะในทุกวันก่อนที่จะลงสนามจริง เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บในร่างกายระหว่างการวิ่งและหายใจหอบถี่ได้

2. ยืดกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ ให้เส้นผ่อนคลาย เตรียมพร้อมความฟิตในการวิ่งทุกครั้ง เสมือนเป็นการวอร์มให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น และช่วยลดอาการบาดเจ็บของร่างกายและช่วยให้สมรรถนะในการวิ่งดีขึ้นอีกด้วย

3. เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วย เพื่อให้มีความทนทาน ไม่เมื่อยล้าเร็ว ด้วยการออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างเช่น การวิดพื้น การเล่นเวท ต่อยมวย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน

4. เพิ่มระยะการวิ่งอย่างเป็นสเต็ป จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งระยะใด นักวิ่งควรจะเพิ่มระยะการวิ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรเกิน 10% ต่อสัปดาห์

5. การพักผ่อนให้เพียงพอ ควรพักผ่อนให้เต็มที่ในแต่ละวัน และผ่อนคลายกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การไปเที่ยว จัดสวน ทำอาหาร งานอดิเรกที่ชอบ เพื่อลดความกดดันจากการฝึกซ้อมวิ่งหนัก ๆ ให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่งั้นจะพาลเสียสุขภาพจิตได้ง่าย

นอกจากนี้ก่อนการลงสนามวิ่งมาราธอนจริง ควรจะให้ร่างกายได้พักก่อนหนึ่งวัน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง  เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และให้กล้ามเนื้อได้พัก สำหรับการเตรียมพร้อมในวันพรุ่งนี้ จะได้วิ่งมาราธอนอย่างสบาย และไม่เกิดอาการเจ็บปวดในร่างกาย เสร็จจากภารกิจนี้ ได้สุขภาพที่ดีกลับมาด้วยนะ